ข้อเสียของไฮโดรโปนิกส์
1. การปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์จะมีต้นทุนการผลิตเริ่มต้นค่อนข้างสูง
เนื่องจากต้องใช้อุปกรณ์ในการเพาะปลูกต่าง ๆ มากมายและมีราคาแพง
แต่มีศักยภาพในการคืนทุนเร็ว
(ในปัจจุบันเราสามารถหาซื้อชุดปลูกผักสำเร็จรูปได้ในแบบราคาย่อมเยา
หรือจะศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อทำเองก็ได้)
2. ผู้ปลูกต้องมีความชำนาญและมีประสบการณ์มากพอสมควรในการควบคุมดูแล
เพราะถ้าไม่มีความรู้หรือไม่มีความสามารถในการจัดการที่ดีพอก็อาจทำให้พืชผักที่ปลูกมีปริมาณธาตุอาหารในพืชสูงได้
3. ผู้ปลูกจะต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานของสรีรวิทยาของชนิดพืชที่จะปลูก
รวมไปถึงพื้นฐานทางเคมีและธาตุอาหารที่พืชต้องการ
4. การปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์ต้องมีการควบคุมดูแลอย่างสม่ำเสมอ
5. วัสดุที่ใช้ในการเพาะปลูกบางอย่างจะเน่าเปื่อยหรือสลายตัวได้ยาก
ซึ่งอาจเป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมได้ ถ้าหากไม่มีการจัดการที่ดีพอ
6. มีข้อจำกัดของชนิดพืชที่ปลูกมีค่อนข้างสูง
ทำให้การเลือกพืชที่จะเพาะปลูกในเชิงพาณิชย์จะต้องมีการศึกษาตลาดอย่างถี่ถ้วน
และควรเป็นพืชที่แตกต่างจากพืชที่ปลูกกันอยู่ทั่วไปบนดิน
7. ในบริเวณที่จะติดตั้งระบบไฮโดรโปนิกส์
จะต้องมีระบบไฟฟ้าและระบบน้ำที่พร้อม
เนื่องจากเป็นพื้นฐานของการติดตั้งระบบการปลูกด้วยวิธีนี้
8. กรรมวิธีต้องมีความสะอาด
เพราะควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อราได้ยากมาก โดยที่ติดราแล้ว จะติดทั้งระบบ
9. มีความเสี่ยงต่อโรคในน้ำค่อนข้างมาก
เพราะน้ำนำพาการกระจายของโรคพืช
โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคที่เกิดกับรากซึ่งยากต่อการรักษา
10.ไม่สามารถใช้ปุ๋ยอินทรีย์ได้
และยังทำให้พืชขาดจุลินทรีย์ในดินบางชนิด ที่อยู่รอบๆ รากพืช อาทิ ไรโซเบียม (rhizobium) ในปมรากถั่ว ที่สามารถดึงไนโตรเจนจากอากาศมาให้พืชใช้โดยตรง
ตลอดจนจุลินทรีย์อื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อพืช เช่น actinomycetes blue green
algae และ photosynthetic bacteria เป็นต้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น